อารยธรรมมนุษย์กับกลิ่นหอมที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าทึ่ง -

อารยธรรมมนุษย์กับกลิ่นหอมที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าทึ่ง -

 

การสำรวจอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่มีต่อน้ำหอมเป็นการเปิดประตูอันน่าทึ่งอันอุดมสมบูรณ์ของสังคมมนุษย์ วัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลกมีความชื่นชอบ พิธีกรรม และประเพณีที่เกี่ยวข้องกับน้ำหอมที่แตกต่างกันออกไป มาร่วมทำความเข้าใจกับมนุษยชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สะท้อนอยู่ในโลกแห่งน้ำหอมที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าทึ่ง:

  1. ความสง่างามแบบตะวันออกกลาง:

    - ตะวันออกกลางมีประเพณีการผลิตน้ำหอมที่ฝังลึกอยู่ในประวัติศาสตร์มายาวนาน ไม้กฤษณาเป็นไม้ยางพาราที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเครื่องหอมของตะวันออกกลาง กลิ่นเช่นกุหลาบ ดอกมะลิ และอำพันก็แพร่หลายเช่นกัน ทำให้เกิดกลิ่นหอมที่เข้มข้นและหรูหรา น้ำหอมมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญ โดยมักสวมใส่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมหรือในพิธีทางศาสนา (รู้ไหมว่ากลิ่นกุหลาบผสมกับมะลิคือ Middle Notes ยอดฮิตของน้ำหอมที่วางขายอยู่เลยนะ)

  1. เอเชีย:

    - มาที่ฝั่งบ้านเรากันบ้างในวัฒนธรรมเอเชียจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเช่นญี่ปุ่นและจีน ความเรียบง่ายและความละเอียดอ่อนเป็นคุณลักษณะของกลิ่นหอม ฟีลอะริงาโตะ พับเพียบในชุดกิโมโน โดนก้าวสั้นๆ ดื่มชาเขียวอย่างออกรสสัมผัสดูลึกซึ้ง ดอกซากุระ และยูสุก็เป็นกลิ่นยอดนิยม แถบเอเชียบ้านเรามักเน้นไปที่การสร้างพลังแห่งความสงบโดยกลิ่นเป็นตัวเชื่อมโยงและความเงียบสงบที่หาในวัฒนธรรมไหนๆไม่ได้ ธูปเองก็มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติทางศาสนาและวงการน้ำหอมปัจจุบัน ซึ่งมีการนำกลิ่นธูปมาใช้เยอะมากๆ อย่างของที่ผมเพิ่งไปดมในงานแข่งขันเมื่อปี 2023 เป็นกลิ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากการบวงสรวง น่าทึงมากแต่มันถูกผสานไปในขวดน้ำหอมจนอาจจะแยกไม่ออก ซึ่งมีส่วนทำให้น้ำหอมมีความสำคัญทางวัฒนธรรม ตัวผมเองเป็นนักปรุงที่ชอบเล่นกลิ่นของชาเช่นกัน เสมือน Cotton Dream  น้ำหอมที่ผมปรุงขึ้นมาด้วยกลิ่นโทนหวานละมุน แต่เพื่อชูจุดยืนของความหลากหลายจึงมีการใส่กลิ่นชาเขียวลงไป

 

 

  1. โรแมนติกฝรั่งเศส:

    - ฝรั่งเศส ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของโลกแห่งน้ำหอม มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมในด้านความโรแมนติกและความสง่างาม ร้านขายน้ำหอมสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด รวมถึงลาเวนเดอร์ ดอกกุหลาบ (เรามีก้านหอมกลิ่นเหล่านี้ด้วยนะ กดที่คำว่าลาเวนเดอร์หรือกุหลาบได้เลย) และดอกไอริส นักปรุงน้ำหอมชาวฝรั่งเศสมีชื่อเสียงในด้านศิลปะในการสร้างสรรค์น้ำหอมที่ประณีตและเหนือกาลเวลา โดยรวบรวมแก่นแท้ของความซับซ้อนของชาวปารีส ทุกวันนี้น้ำหอมที่เรานำวัตถุดิบเข้ามาก็โรงงาน Top 5 จากฝรั่งเศสอีกด้วย

  1. มหกรรมเครื่องเทศอินเดีย:

    - ภูมิทัศน์กลิ่นหอมของอินเดียเป็นพรมแดนที่มีชีวิตชีวาของเครื่องเทศ ดอกไม้ และไม้ ไม้จันทน์ ดอกมะลิ (อันนี้ผมชอบมากครับมีความต่างจากดอกมะลิไทยมาก) และหญ้าฝรั่นแพร่หลายในน้ำหอมของอินเดีย กลิ่นหอมเป็นส่วนสำคัญของพิธีกรรมของอินเดีย โดยน้ำมันหอมและน้ำหอมมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนาและการเฉลิมฉลองตามประเพณี 

 

 

  1. ความเป็นผืนแผ่นดินแอฟริกัน:

    - วัฒนธรรมแอฟริกันมักได้รับแรงบันดาลใจจากความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ของทวีปนี้ มักใช้กลิ่นกำยาน มดยอบ และสมุนไพรพื้นเมืองหลายชนิด ในชุมชนแอฟริกันบางแห่ง น้ำหอมเชื่อมโยงกับพิธีกรรม การเล่าเรื่อง และการปฏิบัติทางจิตวิญญาณ ซึ่งสร้างความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างกลิ่นและประเพณี 

  1. ความหลงใหลในละตินอเมริกา:

    - ลาตินอเมริกาขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นหอมที่เข้มข้นและน่าหลงใหล ส่วนผสมอย่างวานิลลา อบเชย และผลไม้เมืองร้อนมีลักษณะเด่น น้ำหอมมักถูกสวมใส่ในช่วงเทศกาล การเฉลิมฉลอง และการรวมตัวทางสังคม ซึ่งสะท้อนถึงธรรมชาติที่มีชีวิตชีวาและมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรม ถึงแม้ว่ากลิ่นเหล่านี้แรกเดิมจะมีวัฒนธรรมที่แรกเปลี่ยนกับอินเดียตั้งแต่สมัยสงครามโลก แต่ชาวละตินก็ชูจุดนี้ของกลิ่นได้เป็นอย่างดี

  1. ความหลากหลายของอเมริกาเหนือ:

    - ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของทวีปอเมริกาเหนือสะท้อนให้เห็นจากความชอบในกลิ่นหอมที่มีความหลากหลาย ตัวอย่างเช่น ชุมชนชนพื้นเมืองอเมริกันมีประเพณีอันยาวนานในการใช้กลิ่นที่มาจากพืชพรรณในท้องถิ่นในพิธีกรรม รวมถึงในวัฒนธรรมร่วมสมัย น้ำหอมหลากหลายสไตล์ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของประชากรดังกลิ่น โทบัคโค่ กลิ่นหนัง รวมถึง อำพัน ซึ่งเป็นกลิ่นในจินตนาการ

 

อิทธิพลทางวัฒนธรรมที่มีต่อน้ำหอมเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำหนดรสนิยมด้านกลิ่นเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการเล่าเรื่องของน้ำหอมอีกด้วย แต่ละโน้ต แต่ละส่วนผสม ล้วนมีมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ประเทศไทยเอง เจ้าคุณพระสินีนาฏ ร.10 ก็ทรงโปรดดอกปี๊ป หรือดอกกาสะลอง ซึ่งมักจะนำมาทัดหูอยู่บ่อยครั้ง  เพราะที่มาของดอกนี้คือรากฐานของชาวล้านนาที่แสดงอัตลักษณ์ได้อย่างเป็นปัจเจก ทำให้โลกแห่งน้ำหอมกลายเป็นสิ่งที่มีความเป็นสากลและเชื่อมโยงถึงกันอย่างแท้จริงเสมือนการใช้ภาษาของมนุษย์ แต่เป็นการสื่อสารกันด้วยกลิ่นที่บ่งบอก ความรู้สึก ความเป็นตัวตน สถานที่ที่พบเจอ หรือประสบการณ์ที่มิรู้ลืม การสำรวจความแตกต่างทางวัฒนธรรมเหล่านี้ช่วยให้เราได้ชื่นชมความงามและความหลากหลายที่น้ำหอมนำมาสู่มุมต่างๆ ของโลก 

 

 

เรียบเรียงโดย - Aaron Sukphodee

 

กลับไปยังบล็อก

แสดงความคิดเห็น